Sunday, November 1, 2009

อาชีพที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝัน



ศิลปิน(จิตรกร)

ผมใฝ่ฝันอาชีพจิตรกรเพราะว่าอาชีพนี้ เป็นอาชีพที่ผมฝันใฝ่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ในสมัยที่ผมได้ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ผมได้สนใจอาชีพนี้เมื่อผมได้ไปเรียนพิเศษวาดรูปโดยที่ในขณะนั้น ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า ผมมิได้มีความรู้สึกชอบกับการวาดรูปเลย แต่เมื่อผมได้ลองสัมผัสกับมันจริงๆ มันทำให้ผมมีความรู้สึกที่ยากเกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ที่แน่ๆมันทำให้ผมรู้สึกดี มีความสุขกับสิ่งที่ผมได้กระทำลงไป ไม่ว่าจะใน อดีต ปัจจุบันและอนาคต ผมก็จะเลือกอาชีพนี้เป็นแน่แท้ และไม่มีใครเปลี่ยนใจผมได้แน่ แม้นว่าอาชีพนี้ จะมีแต่คนว่าเป็นอาชีพที่ไม่ยั่งยืน ทำไปแล้วจะใส้แห้งไม่มีเงินกินข้าวแต่ผมก็จะเลือกอาชีพนี้แน่นอน




แรงบันดาลใจ

สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมมีทั้งหมด 2 ท่าน ท่านแรกคือ คนๆหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยได้มีศิลปะสมัยใหม่เข้ามา ทำให้ประเทศไทยมีความเป็นอารยะทัดเทียมกับนานาประเทศ ท่านผู้นั้นคือ
ท่านศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เดิมท่านชื่อ คอร์ราโด เฟโรชี เป็นชาวอิตาลี ท่านเป็นคนก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร และยังเป็นครูผู้สอน ท่านเป็นที่รักใคร่และนับถือทั้งในหมู่ศิษย์และอาจารย์ และได้รับการยกย่องเป็นปูชนียบุคคลของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีผลงานที่โดดเด่นหลายอย่างในประเทศไทย ได้แก่ พระราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่สวนลุมพินี และ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี



ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี




ท่านที่สองคือ ท่านอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี
ท่านเป็นผู้ที่มีแววด้านการวาดรูปมาตั้งแต่ชั้นมูลและชั้นประถม สามารถวาดตัวละครรามเกียรติ์ได้เกือบทุกตัว นอกจากจะมีความจำเป็นเลิศสามารถจำชื่อเพื่อนร่วมชั้นได้ทุกชั้นปีทั้งที่เชียงรายและพะเยา เพียงเท่านี้ก็ถือว่าท่านมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อจบชั้นมัธยม 6 ที่เชียงราย ถวัลย์ก็ได้รับทุนมาเรียนต่อที่ โรงเรียนเพาะช่าง และได้เป็นนักเรียนดีเด่น ด้วยฝีมือการวาดรูปที่แม่นยำ เฉียบคม ฉับไว จึงเป็นหนึ่งในนักเรียนเพาะช่างดีเด่นด้านจิตรกรรม ที่ผลงานได้รับการคัดเลือกไปแสดงในหอศิลป์แห่งชาติ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้น ถวัลย์ ดัชนี จึงเข้าศึกษาต่อที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และได้เป็น "ศิษย์รุ่นท้ายๆ ของ ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี"
ตอนเรียนอยู่ที่ศิลปากรในชั้นปีที่ 1 ถวัลย์ ดัชนี ทำคะแนนการวาดรูปได้ถึง 100+ แต่เมื่อขึ้นปี 2 เขากลับทำได้แค่ 15 คะแนน เพราะเหตุผลที่ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี ให้ไว้ว่า ปลาของนายไม่มีกลิ่นคาว นกของนายแหวกว่ายไปในอากาศไม่ได้ ม้าของนายไม่สามารถที่จะควบหรือวิ่งทะยานออกไปได้ นายเป็นเพียงแค่นักลอกรูป มันไม่ใช่งานศิลปะ แต่เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าท่านเป็นอัจฉริยะทางศิลปะผู้หนึ่งในประเทศไทย


อ. ถวัลย์ ดัชนี